ในโลกที่ขับเคลื่อนไปด้วยเทคโนโลยี ลูกๆ ของเราก็ต้องคลุกคลีกับมันอย่างปฏิเสธไม่ได้ เด็กหลายคนชอบเล่นมือถือ ชอบเทคโนโลยี ชอบแกะรื้อชิ้นส่วน พฤติกรรมเหล่านี้ เราไม่ควรที่จะดุหรือห้ามปรามพวกเขา เพราะนั่นอาจเป็นการเผยตัวตนฉายแววของพวกเขา บ่งบอกสิ่งที่เขาชอบก็ได้ เพราะเทคโนโลยีกับเด็กเป็นเรื่องที่ไม่ไกลตัวและไม่ไร้สาระอีกต่อไปแล้วในโลกยุคนี้

เหมือนกับเหล่ามหาเศรษฐีด้าน IT ของโลกเหล่านี้ ที่คลุกคลีและเริ่มจับคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ยังไม่ 10 ขวบด้วยซ้ำ! ยกตัวอย่างก็เช่น

มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ผู้ก่อตั้งโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่าง Facebook เขาคือมหาเศรษฐีหนึ่งเดียวที่มีอายุน้อยที่สุดใน Top 10 ที่จัดอันดับโดยนิตยสาร Forbes มาร์คมีความสนใจในคอมพิวเตอร์ และได้ใช้คอมพิวเตอร์ในการเขียนซอฟต์แวร์ตั้งแต่ยังเป็นเด็กชั้นประถมอายุ 12 ปี พ่อของเขาเคยจ้างนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ชื่อ เดวิด นิวแมน มาสอนเป็นการส่วนตัว เมื่อนิวแมนเห็นแววของมาร์ค ถึงกับเรียกมาร์คว่า “เด็กอัจฉริยะ”

โปรแกรมแรกที่มาร์คเขียนคือ ‘โปรแกรมแชท’ ที่ให้คุณพ่อเอาไปใช้ในคลินิกทันตกรรม ทำให้พนักงานภายในคลีนิคสามารถสื่อสารกันเองผ่านโปรแกรมแชทนี้แทนการตะโกนบอกกัน

คนต่อมาคือ บิล เกตส์ (Bill Gates) ผู้ก่อตั้ง Microsoft มหาเศรษฐีที่ไม่มีใครไม่รู้จัก เขาเขียนโปรแกรมได้ตอนอายุ 13 ปี! ตอนเด็กเขาเคยแอบแฮคเข้าไปเปลี่ยนระบบเวลาให้คอมพิวเตอร์ของโรงเรียนเล่นได้ไม่จำกัด และเล่นจนระบบคอมพิวเตอร์ล่มหลายครั้ง จนโดนสั่งห้ามให้เล่นคอมพิวเตอร์อีกเป็นอันขาด แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้

บิล เกตส์ แอบเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และติดต่อไปยังเจ้าของบริษัทที่ให้โรงเรียนเช่าคอมพิวเตอร์ เพื่อเสนอตัวแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ ของโปรแกรมบริษัท เพื่อแลกกับการที่เขาสามารถกลับเข้ามาใช้งานคอมพิวเตอร์ได้ไม่จำนวนจำกัดเวลา โปรแกรมแรกที่เขาเขียนโค้ดและหาเงินได้จากมันจริงจังเกิดขึ้นในช่วงเขาอายุ 17 ปี

อีลอน มัสก์ (Elon Musk) Iron Man ในโลกแห่งความจริง ชายผู้บินมาประเทศไทยเพื่อหาทางช่วยทีม 13 หมูป่าขณะติดอยู่ในถ้ำหลวง เขาคือเจ้าของธุรกิจด้านเทคโนโลยีมากมายนับไม่ถ้วน เช่น Paypal บริการโอนเงินผ่านระบบอินเทอร์เน็ต, SpaceX บริษัทเทคโนโลยีเกี่ยวกับจรวด, บริษัท Tesla บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ฯลฯ

ชีวิตวัยเด็กของมัสก์ เขาขลุกตัวอยู่กับคอมพิวเตอร์และเรียนรู้การเขียนโปรแกรมด้วยตัวเอง จนสามารถเขียนโค้ดวิดีโอเกมขายได้ในราคา $50 ตั้งแต่อายุ 12 ปี

ทักษะของพวกเขาเหล่านี้อยู่ที่การปลูกฝัง ผลักดัน ส่งเสริม และการฝึกฝนตั้งแต่ยังเด็ก ถึงแม้ในยุคนั้นเทคโนโลยี และอินเตอร์เน็ตจะไม่ได้สะดวกสบายเท่าตอนนี้ แต่พวกเขาก็ทำได้จนกลายมาเป็นมหาเศรษฐีอย่างทุกวันนี้

หากเด็กๆ ของเราดูมีแววในด้านนี้ แถมยังขี้สงสัย ถามเรื่องเทคโนโลยีที่บางที่พ่อแม่อย่างเราก็ตอบไม่ได้ซะด้วย ลองหาคอร์สในการเขียนโค้ดที่เหมาะสมกับช่วงวัยของพวกเขา ให้พวกเขาได้เรียนรู้ และลงมือทำจริง  ใครจะไปรู้ ในอนาคตเด็กน้อยของเราอาจเติบโตไปเป็นบุคคลสำคัญเหมือนพวกเขาเหล่านี้ก็ได้

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมรายละเอียดคอร์สการเขียนโปรแกรมสำหรับเด็ก (Coding) ที่เหมาะสมกับน้องๆ แต่ละช่วงวัย กับผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาโดยตรงที่ Mind Academy